June 7, 2025

AI ผู้ช่วยการเงิน บันทึกรายรับรายจ่ายบนไลน์อัตโนมัติ

AI ผู้ช่วยการเงิน บันทึกรายรับรายจ่ายบนไลน์อัตโนมัติ
เขียนโดย
ทีม OmUp
เผยแพร่เมื่อวันที่
June 7, 2025

AI ช่วยจัดการเงินบน LINE ยุคใหม่

ภาพประกอบ หญิงสาววัย 28 ปีนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟ ดูโทรศัพท์อย่างตกใจ เธอใช้แอพ AI จัดการการเงินที่ทันสมัย

นางสาวอำไพ วัย 28 ปี ที่ทำงานในบริษัท IT ใจกลางกรุงเทพฯ ยังจำได้ดีถึงเช้าวันที่เธอช็อกกับหน้าญี่ปุ่นธนาคาร เงินคงเหลือ 247 บาท จากเงินเดือน 35,000 บาท ที่โอนเข้ามาแค่สามสัปดาห์ก่อน ความจริงที่น่าตกใจคือเธอไม่รู้เลยว่าเงินหายไปไหน เพียงแค่รู้ว่ามันหายออกทีละ 50 บาท 120 บาท จากการซื้อกาแฟสตาร์บัคส์วันละ 2 แก้ว ค่าแท็กซี่เพราะเก็งกำไรอุบเบอร์ และอาหารที่สั่งผ่านแอปส่งที่เพิ่ม delivery fee อีก 35 บาทไปเรื่อย ๆ

แล้วมันก็มาถึงจุดหักเหของเธอ เมื่อ AI ผู้ช่วยการเงินทำให้เธอรู้สึกว่าการจัดการเงินส่วนตัวไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่คิด ตอนนี้เธอใช้เวลาแค่พูดกับ LINE ไม่ถึงนาทีหลังจ่ายเงิน แทนที่จะใช้เวลาหัวราคาศึกรษานั่งคำนวณกับสมุดบันทึกหรือแอป Excel ที่ทำให้ปวดหัว แอพจัดการเงินแบบใหม่ยังช่วยบันทึกรายรับรายจ่าย line ได้ทันที พร้อมทั้งเป็นโปรแกรมบัญชีส่วนตัวและช่วยวางแผนการเงิน ให้คำแนะนำแบบที่ปรึกษาการเงิน AI ที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ของเธอจริง ๆ

ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าเครื่องมือใหม่นี้จะเปลี่ยนวิธีการดูแลตัวเงินของคุณได้อย่างไร และทำไมคนที่เคยล้มเหลวในการควบคุมรายจ่ายมาโดยตลอด กลับประสบความสำเร็จเพียงแค่สลับมาใช้วิธีการใหม่นี้

ปัญหาการเงินที่คนไทยพบเจอบ่อยที่สุด

ภาพประกอบ กลุ่มเพื่อนพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาการจัดการการเงินในบ้าน

จากการคุยกับเพื่อน ๆ ในกลุม Facebook "คนเงินเดือนช่วยกัน" ที่มีสมาชิก 47,000 คน พบว่าปัญหาที่ทุกคนบ่นซ้ำ ๆ กับคือเรื่องเดิม ๆ เงินหายไปไหนไม่รู้ ลองนั่งนับเศษสตางค์ในกระเป๋าตังค์ก็ไม่ออก คนหนึ่งแชร์ว่า "ใช้แอปบันทึกแล้ว แต่ลืมใส่บ่อย ๆ พอเห็นยอดในแอปไม่ตรงกับยอดจริงก็เลิกใช้" อีกคนบอก "จดในสมุดแต่พอกลับบ้านก็ลืมรายละเอียดไปแล้ว จำได้แค่ว่าซื้ออะไรก็ไม่รู้"

ที่น่าสนใจคือเมื่อมีคนใน comment ถามว่า "เดือนนึงค่ากาแฟใช้เท่าไหร่" เกือบทุกคนตอบว่า "ไม่รู้สิ" แต่พอเริ่มคำนวณดู กาแฟ 85 บาท วันละ 1 แก้ว ใน 22 วันทำงาน ออกมา 1,870 บาท ยังไม่รวมชาไข่มุกวันหยุดอีก 540 บาท รวมแล้วเกือบ 2,500 บาท ใครบางคนถึกับอุทาน "เป็นไปได้มั้ยเนี่ย!" แล้วพอไปเช็คสลิปจริง ๆ กลับอึ้งว่าตัวเลขตรงจังเลย

ปัญหาใหญ่อีกข้อหนึ่งของแอพจัดการเงินแบบเดิม ๆ คือมันไม่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากใช้ต่อ ใส่แล้วก็ใส่ ไม่มีใครมาบอกว่าเราทำได้ดีแค่ไหน หรือควรปรับอะไรบ้าง จึงไม่แปลกที่หลายคนใช้ได้ไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ก็เลิก ไม่มีที่ปรึกษาการเงิน AI ที่คอยช่วยเตือนเวลาใช้เกินงบ ทำให้ปัญหาการเงินแก้ไม่หาย

สาเหตุที่ทำให้จัดการการเงินไม่สำเร็จ

ภาพประกอบ ผู้หญิงที่ดูมีปัญหาในการจัดการการเงินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน

"ฉันเป็นคนเซียนกับการใช้เทคโนโลยี แต่พอเอาไปประยุกต์เรื่องเงินดันติดขัด" คำพูดของพี่เบน เพื่อนที่ทำงานด้าน IT แต่บอกว่าทำบัญชีส่วนตัวไม่เป็น "ปัญหาคือ ทุกอย่างที่เราต้องจดเอง กรอกเอง มันขัดกับนิสัยที่ชิน เรามันติดแชท ติด LINE กัน แต่การเปิดแอปแยกมานั่งใส่ยอดเงิน มันแปลก ๆ รู้สึกเป็นงานเป็นการ"

จากข้อมูลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สำรวจพฤติกรรมทางการเงิน พบว่าคนไทยส่วนใหญ่รู้ว่าต้องจดรายรับจ่าย แต่ทำไม่ได้สม่ำเสมอเพราะ "ลืม" เฉพาะในกลุ่มวัย 25-35 ปี มีถึง 78% ที่เริ่มต้นทำแล้วหยุดภายใน 1 เดือน เหตุผลที่พบมากที่สุดคือ "ไม่มีเวลา", "งานยุ่ง", "ลืม" แต่เมื่อถามลึกลงไป จริง ๆ แล้วปัญหาคือ "กระบวนการมันไม่เข้ากับชีวิตจริง"

ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่หลายคนไม่กล้าพูด คือความรู้ด้านการเงิน "จริง ๆ เราก็อยากรู้ว่าควรเก็บเงินยังไง ลงทุนดีไหม แต่ไปอ่านบทความทางการเงินแล้วมึนหัว เยอะเกินไป เทอมเยอะ" สำรวจพบว่าคนไทยที่มีความรู้การเงินระดับดี มีแค่ 27% จึงไม่แปลกที่เวลามีปัญหาเงิน หลายคนจึงมักปล่อยปละละเลย หรือแก้แบบลองผิดลองถูก

ผลกระทบร้ายแรงเมื่อไม่วางแผนการเงิน

ภาพประกอบ ผู้หญิงยืนอยู่ที่หน้าคอนโดมองโทรศัพท์ด้วยความกังวลเกี่ยวกับการเงิน

"ไม่อยากจำ แต่จำได้" น้องแหม เพื่อนที่เรียนด้วยกันมหาลัย เล่าถึงช่วงที่เธอตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมหลังจากทำงาน 6 ปี "ตอนนั้นคิดว่าเก็บเงินได้ ใช้เงินไม่เปลือง แต่พอไปคุยกับธนาคารถึงกับเบิกตาค้าง เงินออมไม่ถึงร้อยละ 10 ของราคาห้อง เอาไปจ่ายเงินดาวน์ยังไม่พอเลย" ที่เจ็บใจกว่านั้นคือช่วง 3 ปีที่เธอเลื่อนแผนออกไป ราคาคอนโดหลังเดิมเพิ่มขึ้นเป็น 3.2 ล้าน จากที่เคยดู 2.58 ล้าน หมายความว่าต้องหาเงินเพิ่มอีก 620,000 บาท

จากการศึกษาของสถาบันวิจัยทางการเงิน พบว่าคนที่ไม่มีนิสัยการควบคุมการใช้จ่าย มีความเครียดเรื่องเงินสูงกว่า 65% พอเจอปัญหาใหญ่ เช่น เจ็บป่วยกะทันหัน สมาชิกในครอบครัวตกงาน ถึงรู้ว่าเงินออมน้อยมหาศาล บางคนต้องกู้เงินนอกระบบด้วยดอกเบี้ยแพงเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

สิ่งที่น่าเสียดายคือหากมีการติดตามรายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ และมีการลงทุนวางแผนที่ดี คนธรรมดาสามารถเพิ่มเงินออมได้ 15-25% โดยไม่ต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์มาก เพียงแค่ปรับเปลี่ยนจุดเล็ก ๆ เช่น สลับบางมื้อจากร้านอาหารเป็นทำเอง หรือเปลี่ยนจากแท็กซี่เป็น BTS ในบางเส้นทาง หลายคนกำลังพลาดโอกาสสร้างชีวิทการเงินที่ดีกว่า เพียงเพราะไม่มีเครื่องมือที่เหมาะกับตัวเอง

แนวทางแก้ไขปัญหาด้วย AI ผู้ช่วยการเงินอัจฉริยะ

ภาพประกอบ ผู้ใช้พูดคุยกับผู้ช่วยการเงิน AI บนโทรศัพท์ในร้านกาแฟ

"ตอนแรกก็คิดว่า AI ผู้ช่วยการเงิน น่าจะเป็นแค่แอปธรรมดาที่ใส่คำว่า AI เข้าไป" พี่นิด เล่าถึงครั้งแรกที่ลองใช้ "แต่พอใช้จริง ๆ แล้วมันต่างจากที่คิดมาก เวลาซื้อของเสร็จแล้ว เราแค่พิมพ์ในไลน์ว่า 'ซื้อกาแฟ 95 บาท' หรือส่งเสียงว่า 'จ่ายค่าเบนซิน 500' AI จัดการเงินบนไลน์จะรู้เลยว่าเราหมายถึงอะไร ไม่ต้องไปเลือกหมวดหมู่ ไม่ต้องใส่วันที่ มันคิดให้เอง"

สิ่งที่แตกต่างจากแอปทั่วไป คือระบบบันทึกรายรับรายจ่ายด้วยเสียงที่ทำงานแบบธรรมชาติ เราพูดแค่ว่า "ค่าข้าว 150" หรือ "ได้เงินพิเศษ 3,000" ระบบจะแยกแยะได้เลยว่าอันไหนเป็นรายรับรายจ่าย แบ่งหมวดหมู่ให้อัตโนมัติ และที่สำคัญคือมันจะสรุปยอดใช้จ่ายอัตโนมัติให้ดูทุกวัน เหมือนมีเพื่อนคนหนึ่งคอยอัพเดทสถานะการเงินให้เราฟังตลอดเวลา

ส่วนที่ชอบที่สุดของหลายคนคือฟีเจอร์แอพช่วยประหยัดเงิน ที่จะเตือนเวลาที่เราใช้เกินงบในหมวดใด เช่น "สัปดาห์นี้ค่ากาแฟเกินงบแล้ว 230 บาท ลองสลับกาแฟโดรปครึ่งหนึ่งดูไหม?" หรือ "เดือนนี้ออมได้แล้ว 4,200 บาท เยี่ยมมาก! อีก 800 บาทจะถึงเป้า" การได้รับคำแนะนำการเงินส่วนบุคคลแบบนี้ช่วยให้เรารู้สึกมีกำลังใจในการดูแลการเงินต่อไป ไม่ใช่แค่บันทึกแล้วปล่อยทิ้งไว้เฉย ๆ เหมือนเครื่องมือเก่า

เคสประสบการณ์จริงจากผู้ใช้ AI ผู้ช่วยการเงิน

ภาพประกอบ ผู้หญิงยิ้มแสดงความพอใจกับสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น

นางสาวปิยนุช นักศึกษาปริญญาโท วัย 25 ปี เล่าประสบการณ์การใช้ AI ผู้ช่วยการเงินว่า "ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่แอพธรรมดา แต่พอใช้จริงถึงกับตกใจว่าเงินไปไหนบ้างและช่วยประหยัดได้มากขนาดนั้น" ก่อนหน้านี้เธอใช้จ่าย 18,000 บาทต่อเดือนจากเงินทุนการศึกษา โดยไม่รู้ว่าไปกับอะไรบ้าง

หลังจากใช้ AI จัดการเงินบนไลน์เป็นเวลา 3 เดือน ปิยนุชค้นพบว่าค่าใช้จ่ายหลักมาจาก ค่าอาหารสั่งออนไลน์ 6,200 บาท ช้อปปิ้งออนไลน์ 4,100 บาท และค่าเครื่องดื่ม 2,800 บาท ซึ่งรวมกันแล้วคิดเป็น 72% ของรายจ่ายทั้งหมด AI แนะนำให้ลดการสั่งอาหารและทำอาหารเองเพิ่มขึ้น พร้อมกำหนดงบประมาณช้อปปิ้งรายเดือน

ผลลัพธ์หลัง 6 เดือน ปิยนุชสามารถลดค่าใช้จ่ายลงเหลือ 12,500 บาทต่อเดือน ประหยัดได้ 5,500 บาท หรือคิดเป็น 30% ของรายจ่ายเดิม เงินส่วนที่เหลือนำไปลงทุนกับกองทุนตามคำแนะนำของ AI ปัจจุบันมีเงินออม 95,000 บาทและกำลังวางแผนซื้อรถยนต์คันแรกด้วยเงินสดที่ออมได้

"สิ่งที่ชอบที่สุดคือความสะดวกในการบันทึกด้วยเสียงและคำแนะนำที่ได้รับคำแนะนำการเงินส่วนบุคคลตรงกับสถานการณ์จริง ไม่ใช่คำแนะนำทั่วไปที่อ่านได้จากที่ไหนก็ได้" ปิยนุชสรุป

วิธีใช้ AI จัดการการเงินได้ผลในชีวิตจริง

ภาพประกอบ ครอบครัวนั่งอยู่ด้วยกัน ใช้ผู้ช่วยการเงิน AI ในการวางแผนการเงิน

"ตอนแรกลองใช้ OmUp AI ผู้ช่วยด้านการเงินส่วนตัว ด้วยความฮึกเหิม" น้องปุ๋ย เล่าย้อนไปช่วงเริ่มต้น "คิดว่าจะจดทุกอย่าง แต่วันที่สองก็เริ่มลืม" หลังจากใช้ไปสักพัก เธอค้นพบเทคนิคที่ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง คือ "บันทึกทันทีที่จ่าย ไม่รอ" ตัวอย่างเวลาซื้อกาแฟเสร็จ ก็ส่งเสียงในไลน์เลยว่า "กาแฟนม 80 บาท" ระหว่างเดินออกจากร้าน

สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้คือการตั้งค่าแจ้งเตือนให้ AI ถามยอดรายวัน เวลา 8 โมงเย็นทุกวัน มันจะส่งข้อความมาว่า "วันนี้ใช้จ่ายทั้งหมด 450 บาท เมื่อเทียบกับเมื่อวานลดลง 120 บาท เยี่ยม!" แบบนี้จึงรู้สึกอยากดูแลการเงินต่อไป โปรแกรมบัญชีส่วนตัวแบบดั้งเดิมไม่เคยให้ feedback แบบนี้

การประยุกต์ใช้ในสถานการณ์พิเศษ เช่น เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด ก่อนไปจะขอให้ AI ช่วยแนะนำงบประมาณท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน จากข้อมูลการใช้จ่ายผ่าน ๆ มาของเรา มันจะบอกว่า "ตามสไตล์การใช้จ่าย คาดว่าไปเที่ยวครั้งนี้ใช้ประมาณ 4,500-5,200 บาท แบ่งเป็นค่าที่พัก 1,800 ค่าอาหาร 2,100 ของฝาก 800 เจ็บตัวอื่น ๆ 700" พอไปเที่ยวจริงก็บันทึกรายจ่ายผ่านไลน์ตามปกติ

สำหรับใครที่อยู่กับครอบครัว การใช้วางแผนการเงินร่วมกันคือให้แต่ละคนในบ้านบันทึกใน Bot เดียวกัน ที่ปรึกษาการเงิน AI จะแยกดูรายบุคคลได้ แล้วยังสรุปรายจ่ายทั้งครอบครัวด้วย ช่วยให้เห็นภาพรวมและหาจุดที่ควรปรับปรุงร่วมกัน เช่น "เดือนนี้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 340 บาท น่าจะมาจากเปิดแอร์บ่อยขึ้น อาจลองปรับการใช้งานดู"

AI ผู้ช่วยการเงินจะรู้ได้อย่างไรว่าเราพูดเรื่องรายรับรายจ่าย?เคยไหมที่บอก AI ว่า "ซื้อข้าว" แล้วมันอึ้ง? จริง ๆ แล้วระบบจะจับคำพูดเกี่ยวกับเงิน เช่น ซื้อ จ่าย ได้ รับ ผสมกับตัวเลข มันถูกฝึกให้เข้าใจภาษาไทยแบบที่เราใช้กันจริง ๆ เช่น "ข้าวไก่ 45" หรือ "โบนัส 5 พัน" ถ้าบางครั้งมันงง ก็จะถามกลับมาเพื่อให้แน่ใจ และเราแก้ไขได้ทีหลัง ง่ายมากการเก็บข้อมูลการเงินของเราปลอดภัยหรือไม่?เรื่องนี้หลายคนกังวลเหมือนกัน แต่จริง ๆ มันไม่ได้เก็บรหัสบัตรเครดิตหรือข้อมูลบัญชีธนาคารเราหรอก เก็บแค่ข้อมูลที่เราบันทึกเอง เช่น "ซื้อกาแฟ 80 บาท" เท่านั้น ระบบเข้ารหัสข้อมูลแรงมาก คล้าย ๆ ที่โซเชียลแบงค์ใช้กัน และจะออกระบบอัตโนมัติถ้าไม่ใช้นาน เลยไม่ต้องห่วงว่าคนอื่นเอาเราดูข้อมูลเงินเราAI จะให้คำแนะนำการเงินส่วนบุคคลแบบไหน?มันจะดูพฤติกรรมการใช้เงินของเราก่อน แล้วค่อยแนะนำแบบเฉพาะตัว เช่น ถ้าเราชอบซื้อกาแฟแพง มันจะแนะนำให้ลดลงทำครั้งแรก ไม่ใช่ห้ามเด็ดขาด หรือถ้าเรามีเงินเหลือจากการประหยัด มันจะบอกช่องทางลงทุนที่เหมาะกับรายได้เรา ยิ่งใช้นาน ยิ่งรู้จักเรามากขึ้น คำแนะนำก็จะใช่ตัวมากขึ้นใช้ AI ผู้ช่วยการเงินแล้วสามารถประหยัดเงินได้จริงหรือ?จากคนที่ใช้งานจริง ส่วนใหญ่บอกว่าลดค่าใช้จ่ายได้พอสมควร ประมาณ 15-30% ภายใน 3 เดือนแรก โดยไม่ต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์มาก เพียงแค่รู้ว่าเงินไปไหนบ้าง แล้วปรับพฤติกรรมตามคำแนะนำ เช่น ลดกาแฟวันละแก้ว หรือเปลี่ยนจากแท็กซี่เป็น BTS บางเส้น ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการบันทึกสม่ำเสมอและเปิดใจกับคำแนะนำ

เริ่มต้นใช้ AI เพื่อการเงินที่มั่นคงวันนี้

ภาพประกอบ ผู้หญิงมั่นใจถือโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้มท้าทาย


"ถ้าเราย้อนเวลากลับไปได้ เราคงเริ่มใช้ AI ผู้ช่วยการเงินตั้งแต่เริ่มทำงาน" คำพูดของหลาย ๆ คนที่ใช้มาแล้วสักพัก เมื่อมองย้อนไปเห็นว่าหากได้ควบคุมการใช้จ่ายและออมเงินได้เร็วกว่านี้ ชีวิตน่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีกว่า เงินออมที่เก็บได้เพิ่มขึ้น โอกาสที่ไลฟ์สไตล์ดีขึ้น หรือแม้แต่ความสบายใจที่ไม่ต้องเป็นพหุสุดด้วยเรื่องเงินอีกต่อไป


หลายคนที่เริ่มใช้เก่าว่าเห็นความเปลี่ยนแปลงใน 30 วันแรก ไม่ใช่แค่ยอดเงินในบัญชีเพิ่มขึ้น แต่รวมถึงความรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เพราะรู้ว่าเงินอยู่ที่ไหน ไปไหน และควรจะไปทางไหนต่อไป การมี AI ที่คอยช่วยบันทึกรายรับรายจ่ายและให้คำแนะนำการเงินส่วนบุคคลสร้างนิสัยใหม่ที่ดีขึ้น โดยไม่รู้สึกเหมือนเป็นภาระหรืองานเพิ่ม

มาลองเปลี่ยนวิธีการดูแลเงินของคุณดูสินะ OmUp AI ผู้ช่วยด้านการเงินส่วนตัว บน Line ของคุณ รอให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการจัดการเงิน เพราะบางครั้งการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ กลับทำให้ชีวิตเราดีขึ้นเกินคาด เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ omup.ai

อย่าพลาดทุกบทความเด็ด!

สมัครฟรี! รับบทความและเทคนิคใหม่ ๆ ส่งตรงถึงอีเมลคุณทุกสัปดาห์

การกดสมัคร แสดงว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว
Thank you! Your submission has been received!
Oops! Something went wrong while submitting the form.

รวมคอนเทนต์ที่ตรงใจคุณ คลิกอ่านเลย!

อัปเดตความรู้ใหม่ ๆ ที่คุณต้องอ่าน ต่อยอดจากสิ่งที่คุณเพิ่งอ่าน เนื้อหานี้กำลังมาแรง คลิกดูเลย